Justice, revised
เมื่อวานนี้บังเือ็ญไปเจอะบล็อกของ พล.ต.ต อังกูร ที่มีชึ่อแปลกๆ(แนวโหด)ว่า ..รู้ไว้ไม่ตายโหง.. ที่อ่านสนุกน่าสนใจมากมาย
แถมสาำระครบครันไม่ธรรมดาจริงๆ ขอแนะนำนิดนึง http://angkul007.wordpress.com/
ต้องขอขอบคุณคุํณอา ที่แบ่งปันประสบการณ์จากมุมมองของผู้บังคับใช้กฏหมาย
(ขอใช้้คำนี้แืทนคำว่า "ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์" ที่ฟังดูขุนนาง, อาญาสิทธิ์ยังไงไม่รู้ และละเลยว่า ตำรวจก็คนเหมือนกันนะ) ก็ทำให้รู้ว่า เมืองไทยแม่งโหด...จริงๆว่ะ
เข้่าเรื่อง...ที่นี้พอได้อ่านเรื่อง "อุ้ม" ทั้งที่ อุ้มโดยอาชญากร และ อุ้มโดย "ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์" เพื่อผดุงความยุติธรรม อันนี้ผมก็อินอยู่เหมือนกัน ว่าึถ้ากฏหมายเอาผิดคนร้ายไม่ได้ เราควรเอาผิดเองหรือไม่ แล้วไครกันมีสิืทธิ ยิ่งใน ยุคเงารัฐประหาร ที่เรานิยมจับโจรด้วยวิธีโจร แล้วทุกคนเลยกลายเป็นโจรไปหมด เป็นเรื่องตลกร้าย เหมือนเรื่องตลก ๖๙ ไปเลย
ก็อดคิดถึงวิชาที่ีเรียนสมัยป.ตรี ที่สร้างแรงบัลดาลใจต่อกระบวนคิดของผมในเชิงสังคมมากที่สุดวิชาหนึ่ง ที่ชื่อว่า ความยุิติธรรม หรือ Justice
(เดี๋ยวนี้เึค้าทันสมัย มี เว็บคาสต์ ด้วย) แล้วลองถามตัวเองดูสิครับ ว่าึอะไรคือเจ้าความยุติธรรม ผมว่าคนส่วนใหญ่คิดไม่ค่อยถึงหรอกคับ แหม..แคร์อะไรกับ สิ่งนามธรรมเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริงทุกคนตั้งแต่เกิดมาเป็นสมาชิกในครอบครัว ในที่ทำงาน นี่ยังไม่นับรวมไปถึงสังคม ประเืทศนะ ต่างปฎิสัมพันธ์ กันด้วยข้อตกลงพึ้นฐาน(ซึ่งทำโดยอัตโนมัีติ ไม่ได้หมายความว่าทุกคนยินยอมพร้่อมใจ) ว่าจะไม่เอาเปรียบกัน หรืออยู่กันอย่าง "ยอมรับกันได้" ทั้งนั้น
ตรงนี้ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าผมจะตัดสินใจว่าอะไรคือยุติธรรม คงเริ่มคิดจาก ธรรมชาติของมนุษย์ว่าเป็นอย่างไร แล้วเราต้องการสังคมแบบไหน
Labels: personal
0 Comments:
Post a Comment
<< Home