random craps...that is my life รำพึงรำพัน กระแสความคิดของปัจเจกชนบนโลกใบใหญ่

Friday, January 25, 2008

make a 3D display on your own laptop

(Courtesy of Prof. Mark Strovink)

Article by Keigo Iizuka, Using Cellophane to Convert a Laptop Computer Screen into a 3D Display, exploiting the polarization of light emitted from an LCD screen and the use of cellophane as a half-wave plate for white light.

Monday, January 21, 2008

Dealing with the monarchy, history and propaganda

ช่วงนี้อ่านความเห็นของคนไทยทั่วไปในเว็บบอร์ดเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
(ในแง่ความเกี่ยวเนื่องปัญหาการเมืองและพัฒนาการประชาธิปไตยไทย)
แล้วก็ได้ข้อสรุปสั้นๆบางประการ

๑. คนหลายคน sensitive เกินไป ใช้อารมณ์นำ ทำให้ขาดการวิเคราะห์ วิจารณญาน (รักในหลวง=รักพ่อไม่เหมือนกัน ขนาดถึงพ่อเราก็ควรวิจารณ์ได้ ถ้าวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ และในหลวงเป็นตัวแทนของสถาบันไม่ใช่สถาบัน) อันนี้จะโทษคนไทยว่าโง่งม โทษในหลวง หรือโทษสื่อต่างชาติ ก็ไม่ถูก เพราะเมืองไทยมีสื่อชี้นำสร้างภาพเยอะจริงๆ ในหลวงจะเกี่ยวข้องหรือไม่ ผมคงไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่ที่รู้แน่ๆคือมีคนได้ประโยชน์และใช้อำนาจในทางผิดจากความนิยมในพระองค์ อันนี้คนไทยควรเข้าใจตรงนี้ คนที่มีอำนาจที่สุดในประเทศนี้คงไม่ใช่ในหลวงหรอกครับ และจะหวังพึ่งสถาบันกษัตริย์ตลอดไปไม่ได้ ที่พูดๆกันว่ารักพ่อน่ะ ถ้าเป็นลูกที่ดีจริงต้องเติบโตด้วยลำแข้งตัวเองสิ

๒. อันนี้สาหัสกว่า เวบบอร์ดมักมีการปิดการแสดงความคิดเห็นเอาซะงั้น (รวมทั้งบอร์ดของวิชาการ.คอม) ผมว่าควรมีการเรตคอมเม้น ให้คนอ่านโหวดความความเหมาะสม ถ้าก้าวร้าวคะแนนติดลบก็ให้มันซ่อนไว้ คนที่อยากดูค่อยคลิกด ูเหมือนใน ยูทูปน่าจะดีกว่า ทำให้เรื่องสถาบันกษัตริย์กลายเป็นจุดบอด ถ้าคนไทยข้ามกำแพงความคิดนี้ไปไม่ได้ ก็ก้าวต่อไปข้างหน้าลำบาก

วันนี้ได้อ่านบทความใหม่ของ อ.นิธิ เอียวศรีวงษ์ ที่ผมว่าเขาวิเคราะห์ ได้ตรงใจผมมาก จึงอยากแบ่งปันกัน โดยเฉพาะประเด็น "มโนภาพ"ของในหลวงที่ถูกสร้างโดยชนชั้นกลาง (ผมเคยเขียนเรื่องคล้ายๆกันในเรียงควา้มเกี่ยวกับหนัง propaganda สามชาติในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนอยู่มหาลัย ว่าหนังชี้นำที่หลอกคนได้ชะงัดนัก ก็คือหนังที่สร้างจินตภาพที่คนส่วนใหญ่ต้องการจะเชื่ออยู่แล้วนั้นเอง สิ่งนี้เป็นคุณสมบัติของสื่อชี้นำที่คนทั่วไปมักมองข้าม) และก็ที่บอกว่า กษัตริย์อยู่เหนือการเมืองน่ะ คงห่างจากความจริงในประเทศนี้ เพราะใครๆก็อ้างความเป็นธรรมจากในหลวง ไม่เชื่อก็มองรอบๆตัวสิ มีแต่คนพูดว่า...(เติมกริยาเอาเองตามอัธนาศัย)เพื่อพ่อ ถ้าต้องการอ่านหนังสือ The King never smiles ของ Paul Handley อย่างเป็นธรรม ไม่ใช่ใส่อคติสุดโต่งทางใดทางหนึ่ง ควรจะมองแง่บทบาททางการเมืองของสถาบันกษัตริย์ โดยแยกจากความเป็นบุคคล (หนังสือเล่มนี้จริงๆ เขียนชีวประวัติของพระองค์ในเชิงมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ ต้องจัดการกับสถานการณ์ที่ตัวเองเผชิญต่างหากล่ะ คนอ่านทั้งไทยและเทศหลายคน ไม่เก๊ตตรงนี้ ดันมองเป็นแง่มุมการเมือง หรือการหมิ่นศักดิ์ศรีไปซะหมด การเขียนชีวประวัติคนอื่นไม่ว่าจะเขียนเยินยอ หรือตำหนิ ต่อให้ข้อมูลแม่นยำแค่ไหนจะให้มันตีความเป็นจริงไปหมด เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ขนาดคนเราบางทีใจเราเองยังไม่รู้แน่เลยว่ารู้จักตัวเองกันดีแค่ไหน)

สนใจเพิ่มอีกก็แนะนำให้อ่าน New Mandala คอมเม้นกันได้ข้นทีเดียว มีสองคนที่เห็นตรงข้ามกันคนละขั้ว
ผมอ่านก็ยังรู้สึกขัดแย้งในตัวเองว่าทางเลือกที่สองคนเสนอนั้น อะไรตรงกับสามัญสำนึกตนเองกว่า

Labels: ,

ดูศิลปะ ดูคน (และโศกนาฎกรรมทางการเมือง)




ช่วงเดือนที่ผ่านมาก็ได้แต่คิดๆเครียดๆเกี่ยวกับปัญหาการเมืองไทย ว่าทำไมมันถึงได้มีแต่ความงี่เง่าทุกวันๆ ไอ้ความงี่เง่านี่มันก็มีได้กับการเมืองทุกที่แหละครับ แต่ที่รู้สึกแย่ก็คือประเทศไทยนี้ไม่เคยเป็นของประชาชน และวันที่ความเสมอภาค ความเคารพในศักดิ์ศรีของมนุษย์ จะเกิดขึ้นในสังคมไทยคงจะอีกนาน เมื่อก่อนเรามีรัฐบาลคอรัปชั่น ไม่รับผิด เดี๋ยวนี้เรามีกฎหมายอภิสิทธิชน(ฝังสายเลือด) ตอนนี้ก็ำได้แต่หวังว่าเรายังไม่มีสงครามกลางเมือง(กรุง) คนตัวเล็กๆอย่างผม อนาคตทำได้ก็คงแค่ให้แรงบันดาลใจคนอื่นๆให้รู้จักคิดวิเคราะห์ ลึกซึ้งมากขึ้น ไม่งมงาย
ช่วงนี้ผมเครียดก็เอาเวลาไปดูศิลปะแล้วสร้างความเข้าใจมนุษย์ดีกว่า ตอนนี้มีหนังดีมากๆๆๆๆๆ ออกมาหลายเรื่อง
อยากให้คนไทยได้ดูก็ได้แก่

๑.http://www.atonementthemovie.co.uk/site/site.html
หนังจากอังกฤษ คาดว่ามีโอกาสน่าได้รางวัลหลายอยู่ เพราะถ่ายทำและเล่าเรื่องได้บาดคมมาก(อาจเพราะนิยายดีอยู่แล้ว) ดูแล้วจุกเลย บางที ด้วยความผิดที่ดูเหมือนเล็กน้อย และแม้รู้ทั้งรูู้้ มนุษย์เราสามารถทำร้ายกันได้แสนสาหัสแค่ไหน
อาจเป็นไปได้ที่คนเราทุกวันนี้ฆ่ากันเพราะรัก

๒.The Kite Runner
หนังของอเมริกา อาจไม่ดีเท่าหนังสือที่เปรียบได้กับเป็น"หน้าตา"ของอัฟกานิสถานแบบที่มีเลือดเนื้อ ความรัก และเรื่องราวอดีต ซึ่งมีมิติลึกกว่าภาพ(มัก)ง่ายๆของดินแดนแห่งผู้ก่อการร้ายและมุสลิมหัวรุนแรง


๓.Persepolis การ์ตูนฝรั่งเศส การเคลื่อนไหวภาพ ทำได้น่าสนใจมาก
สองเรื่องนี้มีเรื่องการเมือง(เรื่องแรกของอัฟกานิสถาน เรื่องที่สองของอิหร่าน)เป็นฉากหลังของชะตาชีวิตที่ผกผันของคน ที่ประทับใจกับสอวเรื่อวนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะถึงแม้จะเกี่ยวกับคนในต่างวัฒนธรรม (บางฉากอาจเล่นตรงนี้ด้วยซ้ำ)แต่ก็พูดถึงแง่มุมที่สากลของมนุษย์ ดูแล้วสะท้อนใจ ได้แต่หวังว่าบ้่านเมืองเราจะไม่ตกชะตากรรมอย่างนั้น เพราะป้านเราดูเหมือน(คนที่คิดว่าตัวเองเป็น)"ผู้ใหญ่"ยัง"คิดน้อย"ไป ที่จะเข้าใจว่าควรจะจัดการกับความขัดแย้ง ด้วยการยอมรับความแตกต่าง และเคารพเสรีภาพพื้นฐานของปัจเจกชน

Labels: , ,

Saturday, January 19, 2008

日本語 or ไทย or English

So i've been debating if i should start writing some entries in Thai and Japanese again on this blog? Seems like english is the only common language that all my readers can understand.
Writing non-English definitely gives me a good practice (I can assure you, my Japanese writing/speaking has turned awful by now, while my Thai writing not much better in the first place)

Labels:

Photoholic

Ok, I was away from blogging for a couple weeks despite winter break; what I have been doing? Obviously, I still have to go to work, was posting articles in thai about quantum physics at vcharkarn.com (hard to believe there are not many physics resources in Thai language. what a shame.), had some recreational trips and parties on weekends. I'm also back to kendo and hopefully will get back in shape soon. My life in the US is freaking intense!

And yes, the ceramics I made in Onomichi during summer have just arrived! (My first ones ever!) thanks Sato-kun for this new year present! i have been eating and drinking from it since =)

This time I have something for you my blog reader other than just ranting. Check out these photos from a trip to Golden Gate Park and Ocean beach in San Francisco with Thomas the postdoc (who's 'enjoying his good time' in the US.) I'm feeling like starting making fun of him on this blog, hopefully without risking my grad school career. [forgive me, please!]




I think I made some really proud shots this time, also thanks to the oil leakage from a Chinese ship over New Year that has made the beach much shinier. Hope I'm not the only one to take advantage of this environmental destruction.

Labels: , ,

Thursday, January 03, 2008

Winter Break 2007

Click on the slides to see images with greater details.



At the dawn of my winter break, starting with Patty at lunch on Wed 20 my last day of final exams, and "the rising moon and the crane" at the construction site of the new nanotech lab facility near my office in Berkeley. Then the winter street fair on Telegraph Ave that evening. On Xmas eve, I flew to San Diego to see Betsy. I spent the first day with Yhew and Teay at UCSD: an impressive architecture of the Salk Institute (Yhew's office) overseeing the Pacific, and then the Tree-library. On Chirstmas, Betsy gave me a tour around USD's beautiful campus (and also the Christmas tree at night). The next day, Betsy drove me to Pacific Beach near Point Loma; we looked at rocks and wave crashing on them (the photos are set in continuous series). Then on Friday, she took me to the renowned, San Diego Zoo, and sequences of cute animals as a result.



Second Album:

Beginning from around USD where I stayed, overlooking a canyon. Then saturday afternoon (12-29-07) in Balboa Public park. Then on Sunday, a bit around the campus (its new science building) to Ocean beach on the last day (12-30-2007) with Betsy. The last three shots was taken in San Francisco on New Year's Eve, when I strolled along Market St. from west into downtown. The rainbow flag is the landmark of the queer city Castro.

Labels: , ,